หัวอกพ่อแม่ทุกคนอยากเห็นลูกมีความสุข ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่บางครั้งถึงเราจะพูดจะสอนแค่ไหน เขาก็ไม่ค่อยฟังเท่าไรหรอกครับ น้องกิ๊ฟ  ลูกสาวคนโตของผม เรียนจบด้านอาร์ตจากอังกฤษ แต่ไฟแรงอยากทำธุรกิจเหมือนพ่อ อยากลงทุนเปิดร้านอาหารเอง ทั้งที่ยังขาดประสบการณ์  แล้ว ป่าป๊า อย่างผมจะทำยังไงกับลูกสาวจอมดื้อดีครับ?

ผมยกเงินก้อนโตให้ลูก 20 ล้านบาท แต่ยื่นคำขาด  นี่จะเป็น 20 ล้านแรกและ 20 ล้านสุดท้าย เอาไปทำธุรกิจอะไรก็ได้ที่อยากทำ

ลึกๆ แล้ว ผมอยากเห็นเขาไปได้ดีกับการเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ถ้าล้มเหลว นี่จะเป็นบทเรียนที่ดีที่สุดที่จะสอนให้เขาหัดล้มแล้วลุก 

ประสบการณ์เจ๊งต้องโดนด้วยตัวเองถึงจะรู้ซึ้ง เขาถึงจะหัดบินได้ด้วยตัวเอง

ก่อนจะปรับกลยุทธ์ใหม่จนไปได้ดีกับร้านส้มตำแซ่บอีลี่ ร้านแรกลูกสาวคุณตันก็เลยผ่านบทเรียนเจ๊งไม่เป็นท่ามาแล้วครับ เพราะเขาไม่เคย ทำงานมาก่อน เลยอ่อนหัดตั้งแต่รับพนักงานคนแรกเข้ามาก็ผิดแล้ว ตั้งใจอยากเปิดร้านอาหารไทยแบบฟิวชั่น แต่ดันรับเชฟใหญ่ถนัดอาหารอิตาเลียน ที่สุดเลยใจอ่อนเปลี่ยนเป็นร้านอาหารอิตาเลียนชื่อ "อีซีลี่" แต่ทำเลติดสนามฟุตบอล เปิดได้ไม่เท่าไรก็เจ๊ง!!นะสิครับ แต่นั่นไม่เท่ากับเห็นลูกสาวซมซานกลับถึงบ้านตอนตีห้า เพราะดึกดื่นยังต้องขับรถไปส่งพนักงาน จนต้องจอดรถหลับเอาแรงอยู่ข้างถนน

วันหนึ่งผมเลยใช้กุศโลบายสอนลูกด้วยการให้เขาลงไปว่ายน้ำในสระเห็นไหมถ้าว่ายน้ำเป็น แต่ว่ายเบาๆ เดี๋ยวเดียวก็ถึง แต่เพราะเขาว่ายไม่เป็นตีน้ำจนแตกกระจุยกระจายเปียกไปรอบสระก็ยังไปไม่ถึงไหน  เพราะลูกยังไม่เคยทำงาน จึงบริหารงานไม่เป็น ไม่รู้ว่าจะจัดลับดับอะไรสำคัญ ไม่สำคัญ

ผมเปรียบเทียบให้เขาเห็นภาพ “เวลา” กับชีวิตคนเรา นาฬิกาแต่ละเรือนจะมีแรงผลักดันให้เวลาทั้งหมดเดินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วย “เข็มนาฬิกา” ที่มี 3 เข็ม
เข็มสั้นบอกชั่วโมง เข็มยาวบอกนาที บนหน้าปัดยังมีเข็มวินาทีเล็กที่วิ่งอยู่เสมอไม่เคยหยุด

ผมเคยเป็นเข็มวินาทีด้วยการทำงานเป็นพนักงานแบกของ ผมเคยเป็นเข็มนาทีทำงานเป็นหัวหน้า เป็นเซลส์ซูเปอร์ไวเซอร์ ผมเคยเป็นเข็มชั่วโมง ทำหน้าที่เป็นซีอีโอ เป็นเจ้าของธุรกิจ

ทั้ง 3 เข็มมีบทบาทต่างกัน แต่อย่าน้อยใจกัน ทุกคนต้องรู้หน้าที่ของตัวเองให้ดี ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่ และต้องมีเป้าหมายยึดที่รูเดียวกันที่จุดกึ่งกลาง

ลองคิดสิครับ ถ้าเอาเข็มใหญ่ๆ อย่างเข็มชั่วโมงมาเดินเร็วๆ แทนเข็มวินาทีเล็กๆ จะสิ้นเปลืองพลังงานแค่ไหน เหมือนกับเอาซีอีโอไปล้างจานก็คงเสียประโยชน์น่าดู

เด็กเพิ่งเรียนจบ เขาเห็นแต่ภาพความสำเร็จ ทำงานวันแรกอยากก้าวกระโดดเป็นเข็มชั่วโมงเลย แต่สั่งงานไม่เป็น ทำงานไม่เป็น ไม่รู้จักจัดลำดับความสำคัญ หน้าที่เข็มสั้น เข็มยาว เข็มวินาที ก็เลยตีกันให้มั่วไปหมด

ตัวอย่างง่ายๆใกล้ตัวที่สุด ลองหันกลับมาดูโต๊ะทำงานของคุณ หรือลูกน้องในองค์กรสิครับ คนไหนที่วันๆ เจอหน้าเขาเอาแต่หัวฟู เอกสารกองยุ่งเหยิงเต็มโต๊ะทุกวัน บางทีอาจไม่ใช่เพราะงานล้นมือ แต่เพราะทำงานไม่เก่ง จ่ายงานไม่เป็น เลยเหมาสารพัดเข็มตีกันอยู่ในคนคนเดียว องค์กรของเราก็ไม่ต่างจากนาฬิกาที่ขับเคลื่อนไป

ความสำคัญไม่ได้วัดที่ใครทำเยอะ ใครวิ่งมากกว่ากัน แต่วัดกันที่พลังในการขับเคลื่อน บางคนคนดูทำงานเยอะเหลือเกิน แต่ผลของงานกลับออกมาน้อยจนน่าแปลกใจ ในขณะที่คนบางคนดูเหมือนไม่ได้ทำงานอะไรเลย แต่ทุกการตัดสินใจหรือการลงมือทำอะไรของเขาล้วนมีนัยสำคัญ

หน้าที่ของเข็มที่ทรงพลังที่สุด คือ เข็มที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเดินกระดิก แต่กระดิกเคลื่อนไปแต่ละที หมายถึงการตัดสินใจมูลค่าร้อยล้านพันล้าน ตัดสินใจผิดก็รุ่ง  ... ตัดสินใจผิดก็ร่วง

ชีวิตเข็มวินาทีของผมเริ่มต้นจากการเป็นพนักงานแบกของ ตอนนั้นแม้ทำงานหนัก เงินเดือนน้อย แต่ผมก็ใช้เวลาเหล่านั้นเรียนรู้ที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทุกรูปแบบที่ผ่านเข้ามา จนวันหนึ่งโอกาสมาถึง จึงได้เลื่อนขึ้นเป็นเซลส์ซูเปอร์ไวเซอร์ ออกมาเริ่มต้นเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆน้อยๆ ที่ต้องดูแลลูกน้องหลายสิบคน ช่วงเวลาเหล่านั้นผมก็ยังทุ่มสุดตัวทำงานเต็มที่ และผลตอบแทนก็ได้รับเต็มที่ด้วยเช่นกัน กระทั่งก้าวมาเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตขึ้น

ถึงเข็มที่ดูเหมือนจะไม่เดิน จะเป็นเข็มที่ทรงพลังที่สุด แต่กลไกของนาฬิกานั้นกลับเริ่มต้นที่เข็มวินาที ทุกๆคนล้วนมีโอกาสที่จะขยับเป็นเข็มชั่วโมงได้ ขอเพียงแค่ไม่ดูถูกตัวเองครับ

ขอขอบคุณ..หนังสือ วิถีไม่ตัน (ตัน อิชิตัน)

กลับสู่...สรรหา มาให้ "สุข"