วันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ.1655/2198 ปิแอร์ ลัมแบรต์ แต่งกายด้วยผ้าหยาบ ตัดผมสั้นแบบชาวนา เดินด้วยเท้าออกจากเมืองคัง สะพายย่าม ไม่มีเงิน ไม่มีเสบียงอาหาร เพื่อจะบังคับตนเองให้ขอที่พักและอาหาร

แต่ที่เมืองแรนส์ท่านได้รับการทดลองที่ยากกว่าอีก คณะคาร์แมลที่รู้สึกไม่ดี เพราะการตื่นตัวที่มีต่อผู้แสวงบุญซึ่งดูเหมือนไม่น่าไว้ใจผู้นี้ ปฏิเสธการให้ที่พักแก่ท่าน ท่านไม่ได้รับผลตามที่หวังจากการสนทนาเรื่องชีวิตกับเขา จึงต้องนอนค้างคืนในร้านขายเครื่องดื่มโทรมๆ เป็นเป้าให้ประชาชนล้อเลียน และก้าวร้าว ท่านนั่งเงียบๆ ที่หลุมศพยัง เดอ แซงต์ ซัมซอง เพื่อรอการเปิดเผย ที่พระเจ้าทรงพอพระทัย จะประทานให้ท่านได้รับความว้าเหว่ ความทุกข์ และการถูกทอดทิ้ง

ปิแอร์ ลัมแบรต์ ซึ่งแสวงหาตลอดเวลาด้วยการทำนพวาร อยู่ในบรรยากาศที่สอดคล้องกับจิตตารมณ์ของยัง เดอ แซงต์ ซัมซอง ผู้วอนขอแทนท่าน ในที่สุดพระหรรษทานก็ปรากฏมา คุณพ่อบรีซาซีเยร์บอกว่า "เมื่อปิแอร์ ลัมแบรต์ อยู่ในความแห้งแล้งฝ่ายจิตมากที่สุด และมีความทุกข์อย่างมากหลายชั่วโมง ในพริบตาเดียว ท่านได้รับแสงสว่างเจิดจ้าและการสัมผัสที่ชัดเจน เกี่ยวกับการเลียนแบบความยากจน และการถ่อมองค์ของพระบุตร เมื่อสิ้นสุดกำหนดเวลาที่ต้องค้างอยู่ที่เมืองแรนส์ ท่านเดินทางออกจากเมืองแรนส์โดยได้รับการเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจ จากพระเยซูเจ้าผู้ถ่อมตน มากกว่าตอนที่เดินเข้ามา ได้รับการเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจ มากกว่าภายนอก ที่ปลอมตัวเป็นคนยากจนเข้ามา"

แบบอย่างของพ่อลัมแบรต์...สอนเราให้ก้าวตาม..

ความแห้งแล้งฝ่ายจิตใจ...พระเจ้าทรงดูแลและจัดการ มีเวลาที่เหมาะสม ในการถูกชุบชูขึ้นใหม่ เพียงเราเชื่อและไว้ใจ พระองค์ไม่ให้สิ่งที่หนักเกินกำลัง กับลูกที่พระองค์ทรงรักแน่นอน

ให้เราถ่อมใจลง รับความยากจน ที่อาจเกิดขึ้นในจิตใจ ความยากจนในวิญญาณเรา ที่ต้องการความรักของพระเจ้า ช่วยเราให้ร่ำรวยขึ้น แบ่งปันตัวเองให้คนอื่น เข้าใจผู้ที่ขัดสน และไม่ทอดทิ้งเขาเหล่านั้น ดังที่พระองค์ไม่ทอดทิ้งเราเช่นกัน

อย่าอายในความบกพร่อง ความยากจนในตัวเรา หรือแม้แต่ขีดจำกัดที่ต้องการเวลา เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น...เราอาจจะต้องออกแรงมากกว่าคนอื่นๆ เพื่อจะดำเนินชีวิตให้เหมาะสมกับความรักที่พระองค์ทรงรัก...พระองค์รักในตัวตนที่แท้จริงของเรา...

ให้คุณค่า..กับผู้ถูกทอดทิ้ง ผู้ที่อยู่ชายขอบสังคม

 

กลับสู่ "ลูกก้าวตาม...พ่อลัมแบรต์"