ความหมายนั้นลึกซึ้งนัก...กับคำว่า "ครอบครัว"

 

วันเสาร์ที่ ๑๐ – วันอาทิตย์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เป็นสุดสัปดาห์ที่มีการจัดงานชุมนุมครอบครัวครูรักกางเขน ครั้งที่ ๑๓ โดยปีนี้ โรงเรียนมารีวิทยากบินทร์บุรีเป็นเจ้าภาพ แต่ในปีนี้ มีอะไรหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างออกไปจากการจัดงานชุมนุมฯ ในครั้งที่ผ่านๆ มา

สิ่งที่แตกต่างเหล่านั้น ก็คือ ในคราวก่อนๆ งานชุมนุมฯ จะจัดแบบจบในวันเดียว คือ เริ่มเช้าจบเย็น แต่ในครั้งนี้ ซึ่งตรงกับ ครั้งที่ ๑๓ (Lucky Number ของเจ้าภาพ) มีกิจกรรมต่างๆ ดังนี้

(๑) มีการจัดแบบให้ครูพักค้างคืนหนึ่งคืน

(๒) มีการจัดนิทรรศการจากแต่ละโรงเรียน ที่มุ่งให้ความรู้และแบ่งปันสู่โรงเรียนในเครือฯ ได้นำประโยชน์ไปใช้ ในหัวข้อเกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่น-เศรษฐกิจพอเพียง-สู่ประชาคมอาเซียน

(๓) มีการแข่งขันกีฬาแบบเน้นความสนุกสนานและกองเชียร์ โดยแบ่งออกเป็นสองแขวง เพื่อกระชับสัมพันธ์กัน ระหว่างแขวง จ.จาน ใช้ดี [แขวงจันทบุรี] กับ ป.ปลา ตากลม [แขวงปราจีนบุรี]

(๔) มีงานเลี้ยงสังสรรค์รูปแบบโต๊ะจีนในตอนค่ำของวันเสาร์

(๕) มีการแสดงเป็นรายการๆ ของครูแต่ละโรงเรียนบนเวที

(๖) มีการจัดพิธีคำนับพระคุณเจ้าสิริพงษ์ จรัสศรี โอกาสครบรอบ ๒๕ ปี ชีวิตสงฆ์

(๗) มีพิธีบูชาขอบพระคุณในเช้าวันอาทิตย์เพื่อขอพรจากพระ

(๘) มีพิธีมอบโล่ให้ครูดีเด่น-ครูสอนนาน-ครูสร้างชื่อเสียง และ

(๙) จัดการฟังบรรยายจากวิทยากรที่ได้เชิญมาเป็นพิเศษ

ฉันมีโอกาสพัวพันอยู่ภายในงานนี้เกือบตลอดทั้งงาน ด้วยความรู้สึกที่คิดคำนึงถึง ชื่อของงาน – การชุมนุมครอบครัวครูรักกางเขน คำว่า "ครอบครัว" คำๆ นี้ ให้ความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งนัก คนเราต่างคนต่างมีประสบการณ์กับคำว่า...ครอบครัว...แตกต่างกันไป

หลายคนมีประสบการณ์ของความรัก ความสุข ความอบอุ่นจากครอบครัวของตนเอง จากพ่อ จากแม่ จากญาติพี่น้อง บางคนมีประสบการณ์จากการสร้างครอบครัวของตนเองที่ตนกลายเป็นพ่อ เป็นแม่ และดูแลเลี้ยงดูลูกๆ

ขณะที่บางคนโชคไม่ดี...ต้องมาจากครอบครัวที่ไม่พบความสงบสุขสันติ เพราะสาเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง และอีกบางคนโชคร้าย ที่พกพาเอาบาดแผลที่กรีดลึกจากความทรงจำที่เจ็บปวด เวลามีคนเอ่ยถึง คำว่า "ครอบครัว"

ภายในงานชุมนุมครอบครัวครูรักกางเขน ฉันเดินปะปน และยืนร่วมอยู่ในพิธีเปิดงานนิทรรศการ   ณ โดมเอนกประสงค์ภายในโรงเรียนมารีวิทยากบินทร์บุรี สายตาของครูในเครือฯ เกือบพันคู่ ที่ฉันสัมผัส ลมหายใจของพวกเขากว่า ๘๐๐ ชีวิต ที่เต้นด้วยจังหวะที่ต่างกัน ครูในเจ็ดโรงเรียนของเรา...มาจากต่างพ่อต่างแม่ ต่างจิต ต่างใจ ต่างวัย ต่างเพศ หลายคนอยู่ในครอบครัวครูรักกางเขนมานานหลายสิบปี บางคนไม่กี่ปี และมีหลายคนที่เป็นน้องใหม่ ถ้างานชุมนุมครอบครัวครูรักกางเขนในปีนี้ จะสามารถทำให้พวกเขาหลายคน หรือบางคนเกิดแรงบันดาลใจ...ว่า...เขาได้มาอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น มีซิสเตอร์ที่เอื้ออาทร ผ่อนหนักผ่อนเบา ไม่จำเป็นต้องใจดีนัก เพราะผู้ใหญ่แต่ละท่านก็ไม่เหมือนกัน ถ้ามีครูบางคนสบโอกาสได้พบเพื่อนใหม่ต่างโรงเรียน หรือครูบางคนสนิทมากขึ้นกับเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกัน ฉันปรารถนาให้เสียงหัวเราะของครูส่วนใหญ่ที่เชียร์แขวงของตนให้ชนะกีฬาประเภททีม ได้เป็นเสียงหัวเราะที่มาจากหัวใจที่มีความสุข กองเชียร์สนุกสนานกับสิ่งดีๆ กับอาหารอร่อยๆ ที่ถูกปากและนึกรักผู้ปรุงอาหารมากขึ้น ได้ร่วมนั่งที่โต๊ะจีนที่จัดเมนูได้ดี เป็นที่ถูกใจ พร้อมด้วยรอยยิ้มของครูที่กล่าวขอบคุณพนักงานเสริฟ เสียงปรบมือเพราะชื่นชมยินดีด้วยใจจริงกับการแสดงของครูต่างโรงเรียนบนเวที ฉันคิดว่า...สิ่งเหล่านี้ จะทำให้ครอบครัวครูรักกางเขนของเรา กำลังจะกลายเป็นครอบครัวที่สรรสร้างความรัก ความอบอุ่น ที่สามารถจับต้องได้ ที่สัมผัสได้

และที่สุด ฉันก็สวดขอทั้งพระแม่มารีอา ที่เป็นองค์อุปถัมภ์ของโรงเรียน ๕ โรงในเครือ สวดขอท่านนักบุญยอแซฟ พระภัสดาของพระแม่มารีอา องค์อุปถัมภ์ของหนึ่งโรง และเป็นพิเศษ ฉันสวดขอต่อพระสังฆราช ลัมแบรต์ เดอ ลา ม็อต ให้อวยพรอีกโรงเรียนหนึ่ง ที่ใช้นามชื่อท่านเป็นชื่อของโรงเรียน ฉันอยากให้ความรู้สึกนึกคิดเหล่านี้กลายเป็นความจริง และไม่ใช่แค่เพียงความฝัน เพราะ คำว่า "ครอบครัว ช่างให้ความหมายที่ลึกซึ้งนัก"

 

--กลับสู่ "บทความ..เก็บตกชีวิต"--